บทความนี้ผมตั้งใจเขียนเป็นพิเศษ หลังจากที่ให้คำปรึกษาเรื่องการหาวันคลอด หาฤกษ์คลอดบุตร ปัญหาหนึ่งที่ผมมักได้รับการสอบถามคือ เรื่องการตั้งชื่อลูก ตั้งชื่อลูก สำคัญไหม ตั้งชื่อแบบไหนดี

ชื่อมงคล จำเป็นแค่ไหน หรือว่าเลือกชื่อที่ชอบก็พอเพียงแล้ว โดยส่วนตัวได้ศึกษาเรื่องการตั้งชื่อมาเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เหตุผลสำคัญที่ผมไม่ได้รับให้คำปรึกษาเรื่องการตั้งชื่อลูก เพราะเป็นเรื่องที่ง่าย มีโปรแกรมสำเร็จรูปให้บริการอยู่แล้ว หรือจะเปิดตำราทั่วไปก็ใช้ได้ คุณพ่อคุณแม่คงเห็นด้วยตรงจุดนี้ แต่จะมีคำถามต่อไปครับว่า มีหลายตำรา มีหลายหลักการตั้งชื่อลูกเหลือเกิน อ่านตำราหนึ่งก็ไปขัดแย้งกับอีกตำราหนึ่ง จะตัดสินใจอย่างไรดี แล้วปัญหาที่สำคัญคือ ระยะเวลาในการตั้งชื่อลูก เมื่อลูกคลอดออกมาแล้วแม้มีเวลาถึง 30 วันในการแจ้งชื่อนามสกุลกับราชการ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจัดการให้เรียบร้อยก่อนออกจากโรงพยาบาล อีกสาเหตุหนึ่งคือผมคิดว่าการตั้งชื่อลูก ควรเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ครับ คุณอยากเรียกลูกว่าอะไร คุณชอบแบบไหน สุดท้ายแล้วคุณและลูกที่ต้องอยู่กับชื่อนั้นๆไปตลอดชีวิต (แม้จะไปเปลี่ยนทีหลังได้ก็ตาม) อย่าเอาสิทธิพิเศษในการมอบชื่อดีๆให้ลูกน้อย ไปมอบให้คนที่คุณไม่รู้จักเลยครับ ตั้งชื่อลูก ด้วยตัวเองดีที่สุดครับ

ความสำคัญของการตั้งชื่อ

ชื่อเรียกบุคคล ในปัจจุบันมีค่ามากพอๆกับแบรนด์สินค้าต่างๆ แต่คนไทยกลับให้ความสำคัญในแง่ความเป็นมงคล มากกว่าที่จะพิจารณาที่ความหมายของชื่อนั้นๆ และไม่ได้มองไปไกลๆ ว่าชื่อนั้นก็เปรียบเสมือนแบรนด์ดีๆนี่เอง จะเห็นนะครับว่าคนดังๆสมัยนี้ เอาชื่อตัวเองไปทำแบรนด์สินค้า หรือเอาไปจดเป็นชื่อโดเมนเวบไซต์ การตั้งชื่อควรพิจารณาหลักการตรงนี้มากพอๆกับหลักทางโหราศาสตร์ ถ้าลูกคุณชื่อขึ้นต้นด้วย ก หรือสะกดด้วย A ลูกคุณจะถูกเรียกชื่อเป็นคนแรกเสมอในชั้นเรียน ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ชื่อสมัยนิยม แต่ในอนาคตอาจไม่นิยมแล้ว การตั้งชื่อควรใส่ใจเรื่องการสะกด ไม่ให้เขียนยากหรืออ่านออกเสียงยาก จะเป็นปัญหากับเขาได้ในอนาคต ชื่อควรมีความหมายที่ดี เพราะความหมายนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด และก็ต้องระวังอย่าไปมีเสียงพ้องกับความหมายที่ไม่ได้ในภาษาอื่นๆด้วย ชื่อกับนามสกุล เมื่ออ่านออกเสียงมา สอดคล้องกันดีไหม ตั้งชือลูก แล้วยาวเกินไปไหม ตั้งชื่อลูก ทั้งทีคุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาให้รอบคอบครับผม

เสริมดวงด้วยการตั้งชื่อที่ความหมายดี

ตามหลักโหราศาสตร์จีน ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการตั้งชื่อ แต่มีหลักการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เริ่มต้นต้องเข้าใจก่อนครับในการเลือกวันคลอดบุตร หาฤกษ์คลอด หรือแม้แต่คลอดเองตามธรรมชาติ เราจะได้ทราบจุดเด่น จุดอ่อน ในโครงสร้างดวงของเด็กแต่ละคน จะทราบว่าเป็นคนดิถีธาตุอะไร ใช้ธาตุอะไรเป็นธาตุสำคัญ ใช้ธาตุอะไรเป็นธาตุให้คุณ ตรงจุดนี้ตอนแจ้งกำหนดคลอดเบื้องต้นให้ก็จะสรุปให้ก่อน แล้วเมื่อคลอดเสร็จแล้วทางเราก็จะทำรายงานสรุปให้อีกที รายงานสรุปนี้อธิบายละเอียดแบบเดียวกับการไปสแกนรายนิ้วมือ ที่นิยมทำกันราคาแพงๆเลยครับ

การนำเรื่องธาตุให้คุณ ธาตุสำคัญมาประยุกต์ใช้ในการตั้งชื่อบุตร ต้องทราบก่อนครับว่า ตัวอย่างธาตุให้คุณคือ น้ำ ง่ายๆเลยคือเวลาเสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ยดวงจีน ก็จะบอกว่าให้เสริมธาตุน้ำมากๆ เลือกบ้านใกล้น้ำ เลือกทิศนอนทิศเหนือ เลือกทำกิจกรรมเกี่ยวข้องกับน้ำ เลือกธุรกิจตอนกลางคืน เลือกสีสรรธาตุน้ำคือ ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ในส่วนการตั้งชื่อก็จะตั้งชื่อเกี่ยวกับน้ำ ฤดูน้ำ ฝน สี เดือน ที่เป็นธาตุน้ำ เช่น ธันวา ธารา น้องน้ำ น้องฝน บลู น้องฟ้า ทะเล ไอซ์ เป็นต้น ประเด็นต่อมา ธาตุน้ำสำหรับเด็กคนนี้หมายถึงอะไร อาจจะหมายถึงธาตุก่อเกิด คู่ธาตุ ธาตุโชคลาภ ธาตุอำนาจ ธาตุถ่ายเท อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ธาตุน้ำเป็นธาตุก่อเกิด จะตั้งชื่อให้เสริมดวงชะตานี้ ที่ต้องการเสริมธาตุก่อเกิดเพื่อให้โครงสร้างดวงดีขึ้น ก็ต้องตั้งชื่อที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับ นักปราชญ์ ผู้รู้ การศึกษา การเรียน วิชาการ ทีนี้เราก็สามารถใช้หลักคิดนี้ไปช่วยเลือกชื่อที่มีความหมายส่งเสริมธาตุสำคัญในดวงได้ครับ

ความหมายของชื่อจะมีผลกระทบต่อเรื่องจิตใจ ตามหลักจิตวิทยา ถ้าเราปลูกฝังเรื่องเกี่ยวกับน้ำ ความรู้ ในชื่อเขา เมื่อเด็กเติบโตขึ้น ทราบความหมายชื่อตัวเอง ได้ยินทุกคนเรียกบ่อยๆ เด็กก็จะชอบสีฟ้า ชอบธาตุน้ำ ชอบเรื่องการเรียนได้เอง สิ่งเล็กๆน้อยๆ อาจไม่มีผลอะไรมากครับ แต่สิ่งเล็กน้อยหลายๆ เรื่องรวมๆกัน ในระยะเวลานานๆ ก็ส่งผลต่อจิตใจได้เช่นกัน คุณพ่อคุณแม่มีความเชื่อแบบนี้ ถ้าจะรอให้ลุูกโตแล้วค่อยบอกว่า ลูกต้องชอบธาตุน้ำนะ จะดีกับตัวลูก มีโอกาสที่เขาจะไม่เชื่อ แต่ถ้าใช้วิธีนี้จะไม่ต้องบอกกล่าวอะไรมากครับ สี ถ้าเป็นเพียงแค่ชื่อเรียกคงไม่มีค่าอะไร สีถ้าอยู่ที่เสื้อตัวเดียวก็ไม่มีพลัง แต่ถ้าชื่อ สีเสื้อ สีนามบัตร สีองค์กร สีเสื้อพนักงาน สีอาคาร สีธง ทุกอย่างเป็นสีเดียวกัน สภาพแวดล้อมที่เป็นธาตุที่ให้คุณ ย่อมส่งผลดีต่อเจ้าตัวได้ครับ นึกไม่ออก ลองไปธนาคารกสิกรไทยดูครับ ถ้าใครไม่ชอบธาตุไม้อยู่องค์กรนี้คงไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่ แต่อย่าลืมครับ หลักการพื้นฐานคือ ความสำเร็จขึ้นกับสามปัจจัยตามหลัก ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

โหราศาสตร์จีนเป็นหลักวิชาที่มีความเป็นองค์รวม มีหลักวิชาการ เป็นวิทยาศาสตร์ แต่คนไทยมักมองเป็นเรื่องไสยศาสตร์ไปแทนครับ น่าเสียดายที่อาจารย์เก่งๆหลายท่านที่เริ่มต้นก็แนววิทยาศาสตร์ แต่นานไปก็ต้องแพ้กระแสวัตถุนิยม อาจารย์คนอื่นอ้างฟ้าดิน อ้างเทวดา ใช้วัตถุมงคล ยันต์ ตัวเลขมงคล ล้วนได้รับการยอมรับ ได้หน้าตาชื่อเสียงมากกว่า อาจารย์หลายท่านก็เริ่มมีเหรียญมงคล พิธีกรรมต่างๆ มากขึ้น ตัวผมนี้เริมศึกษาด้วยความสงสัย ความไม่เชื่อ ศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ เรียนไป ตั้งคำถามไปว่า มันใช่เหรอ หลักคิดแบบนี้ใช้ได้ไหม สุดท้าย ผมเลือกใช้ในเรื่องที่อธิบายได้ ผมอาจจะผิดก็ได้ครับ แต่ผมไม่ได้มีอาชีพซินแซ หมอดู แต่ผมก็มีความเป็นมืออาชีพมากพอ ที่จะอธิบายเรื่องต่างๆตามหลักการที่ถูกต้อง ส่วนคนอ่านหรือคนที่มาปรึกษาจะเชื่อหรือไม่ ก็ไม่สำคัญครับ

ชื่อเล่น สำคัญไหม

ชื่อที่สำคัญกว่าชื่อจริง กลับกลายเป็นชื่อเล่น การตั้งชื่อเล่นลูก ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง ชื่อเล่นเป็นชื่อที่ใช้เป็นประจำ แม้เปลี่ยนชื่อจริงเพื่อความมงคล หรือเพื่อแก้ปัญหาชีวิตในอนาคตตามคำแนะนำคนอื่น แต่ชื่อเล่นมักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ตั้งชื่อเล่นทั้งที ตั้งชื่อให้ใช้ได้ตลอดเลยดีกว่าครับ

1. ชื่อเล่นควรเป็นชื่อเรียกง่าย อ่านง่าย ออกเสียงง่าย ผู้หลักผู้ใหญ่สามารถออกเสียงเรียกได้ชัดเจน ไม่พ้องเสียง พ้องความหมาย กับคำล้อเลียน หรือภาษาต่างชาติอื่นๆ

2. ชื่อเล่นเป็นชื่อที่ใช้ตลอดชีพ เรียกตอนลูกอายุ 1-10 ขวบ อาจดูชื่อเล่นน่ารักดี ตอน 20 ปี , 50 ปี วัยทำงาน ลูกอาจประกอบอาชีพอะไรก็ได้ ชื่อนั้นๆยังดูดีมั้ยสำหรับลูก หรือในอนาคต ลูกจะเป็นลุงเป็นป้า เป็นตา เป็น ปู่ เรียก ป้า… ลุง… คุณตา… คุณปู่… นำหน้าชื่อเล่นดู เรียกแล้วรู้สึกอย่างไร ชอบมั้ย ให้พิจารณาเผื่อไว้ด้วย ชื่อมากกว่า 2 พยางค์ภายหลังอาจเรียกเหลือพยางค์เดียว ชื่อเล่นที่พ่อแม่ชอบดูน่ารักดูทันสมัยตอนนี้ อีก 20 ปี ลูกอาจไม่ชอบก็ได้

3. ถ้ามีตัวเลือกเลือกหลายชื่อ ควรลองปรึกษา เพื่อนๆ ญาติมิตร เพราะอาจมีมุมมองชื่อเล่นนั้นๆที่ต่างออกไป ระวังอย่าให้ชื่อซ้ำกันเยอะๆ ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่

4. เตรียมชื่อเล่นไว้หลายๆ ชื่อ ถ้าเน้นเรื่องหลักการตั้งชื่อเพื่อเสริมดวง เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าลูกจะเกิดวันเวลาไหน ต้องเสริมหรือปรับอย่างไรตามโหราศาสตร์จีน ก็ตั้งเผื่อเอาไว้ได้ครับ

หลักการตั้งชื่อ

ศาสตร์การตั้งชื่อบุคคลมีอยู่หลายศาสตร์หลายวิชา เช่น ทักษาปกรณ์ หรือทักษา , เลขศาสตร์ , อายตนะ ๖ , ตุ๊กตาไขนาม , ดาววาสนา , อังคะวิชา-มหาภูติ , ผูกดวงลัคนา , ผูกดวงเลข ๗ ตัว ดูดาวเด่นเสียในภพต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอีกมากมายหลากหลายตำรา ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้

การตั้งชื่อที่นิยมใช้กันนี้จะวิเคราะห์โดยเน้นทักษาปกรณ์เป็นหลัก เสริมด้วยตำราที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คือ เลขศาสตร์ , อายตนะ ๖ โดยทั่วไปการตั้งชื่อบุคคลนั้น ตามที่โบราณาจารย์ท่านได้กำหนด นิยมยึดถือปฏิบัติกันมากที่สุด จะต้องใช้ความหมายของทักษาที่ดี โดยยึด ทักษาปกรณ์ เป็นหลัก ต้องใช้อักษรในวรรค บริวาร , อายุ , เดช , ศรี , มูละ , อุตสาหะ หรือมนตรีเท่านั้น ห้ามอักษร วรรคกาลกิณี โดยเด็ดขาด ชื่อที่ดีควรมีภาษาและความหมาย คําแปลที่ดีเป็นมงคล ความยาว ๒-๔ พยางค์ มีตัวอักษร ,สระในวรรค/ทักษาอื่นๆ รวมๆ กันอยู่ในชื่อ

การตั้งชื่อตามหลักทักษาปกรณ์ ห้ามใช้อักขระ วรรคกาลกิณี ในชื่อ เพศชายมักใช้ วรรคเดช นำหน้า ตามหลัง หรือเป็นส่วนประกอบ เพศหญิงมักจะใช้ วรรคศรี นำหน้า ตามหลัง หรือเป็นส่วนประกอบ หรือใช้วรรคอื่นๆ นำหน้าชื่อก็ได้ เพื่อเป็นการแก้ข้อบกพร่อง หรือส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ

การตั้งชื่อตามหลักการนี้ ผมแนะนำให้ใช้บริการที่เว็บไซต์ myhora.com มีทั้งแบบบริการฟรีและเสียค่าบริการในกรณีที่ต้องการชื่อที่มากขึ้นครับ วิธีการใช้งานนั้นง่ายมาก ให้ไปที่หน้าแรกแล้วเลือกการตั้งชื่อบุตร

ขั้นตอนการ ตั้งชื่อลูก

หลังจากเข้ามาที่เวบ myhora.com แล้วคุณพ่อคุณแม่ที่จะทำการตั้งชื่อบุตรให้เลือกเข้าหน้าตั้งชื่อบุตร หรือพิมพ์ url ตามรูปด้านบน ต้องระวังนะครับ พอดีว่าที่เวบไซต์นี้มีการตั้งชื่อหลายแบบ แต่แบบนี้จะเหมาะกับตั้งชื่อบุตร หาชื่อมงคลให้ลูก มากที่สุด เพราะจะให้เราเลือกวันเกิดว่าเกิดวันอะไร จันทร์ อังคาร บางคนที่เตรียมหาชื่อไว้ก่อน ก็จะเลือกเตรียมไว้วันละชื่อเลย จากนั้นใส่นามสกุลที่ใช้ เลือกเพศของบุตร และเลือกว่าจะให้ขึ้นต้นด้วยทักษาอะไร ผมแนะนำที่นิยมกันคือ บุตรชายขึ้นต้นด้วย เดช บุตรสาวขึ้นต้นด้วย ศรี หรือจะปล่อยว่างไว้ แบบนี้แสดงว่าอะไรก็ได้ ก็จะทำให้ได้ชื่อมากหน่อย มีให้เลือกเยอะขึ้นนั่นเองครับ

เมื่อกรอกข้อมูลในการตั้งชื่อที่จำเป็นครบหมดแล้ว ก็กดปุ่มตั้งชื่อสีเหลืองได้เลยครับ ไม่กี่วินาที คุณพ่อคุณแม่จะได้ชื่อที่ให้เลือกมากมาย เอาละครับ จะเลือกแบบไหนดี ทางเวบก็จะแนะนำให้เลือกชื่อที่มีคะแนนเปอร์เซนต์สูงๆ หรือถ้ายิ่งมีดาวแดงติดไว้ให้ด้วย แปลว่าชื่อนั้นดีพิเศษ ถ้าถูกใจก็เลือกเอาไว้ครับ นั่งกดไปเรื่อยๆ จดเอาไว้แล้วค่อยมานั่งคุยกันพ่อแม่ และอย่าลืมให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านมีส่วนร่วมด้วยก็ดีครับ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ท่านก็ตั้งตารอหลานคนนี้เช่นกัน จุดเด่นในเวบนี้คือ เขาจะคำนวนในหลักการหลายๆศาสตร์ให้แล้ว ว่าดีศาสตร์ไหน อย่างไร ชื่อที่ได้คะแนนเยอะคือ ดีทุกศาสตร์ และเหมาะกับนามสกุลที่ใช้ด้วยครับ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่อ่านมาถึงตรงจุดนี้ ชื่อมงคล ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเองได้แล้วนะครับ ถ้าใครไม่สะดวกเปิดคอม ไม่ถนัดทางนี้เลย ติดต่อให้ผมช่วยเลือกชื่อให้เลือกก็ได้ครับ ไม่คิดเงิน ถ้าว่างก็จะช่วยดูให้ครับผม สำหรับผมไม่ค่อยอยากจะเลือกให้ใครแบบฟันธงไปเลย เพราะการตั้งชื่อแบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ความชอบด้วยนะครับ ผมชอบ คุณพ่อชอบ คุณแม่อาจไม่ชอบก็ได้ ทางที่ดี เปิดคอมแล้วนั่งเลือกกันสองคนพ่อแม่เลย ดีที่สุดละครับ ในยุคนี้ที่ทุกความเชื่อล้วนมีคุณค่า เราเรียกยุคนี้ว่า โหราศาสตร์หลังนวยุค เรียกง่ายๆว่า เป็นยุคที่คนส่วนใหญ่มองว่าอะไรดีหรือคิดว่าดี เชื่อหมด ไม่ว่าจะศาสนา วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ ตามคำพูดติดปากคนไทย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้ประโยชน์จากบทความนี้ครับ และอย่าเชื่อสิ่งที่ผมบอก จงเชื่อหลักกาลมสูตรดีที่สุดครับผม