ใครๆก็อยากมีพรสวรรค์ พ่อแม่หลายคนก็อยากให้ลูกมีพรรสวรรค์ พรสวรรค์กับพรแสวงบางทีก็แยกกันไม่ออกถ้าเรามองที่ผลลัพธ์ แต่ถ้าเรารู้จักใครสักคนนานพอ เราจะรู้ได้เองครับว่าที่เขาหรือเธอมายืน ณ จุดนี้ได้ เป็นเพราะพรสวรรค์หรือพรแสวง สำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้ว การแสวงหาพรสวรรค์ของลูก คืองานที่ท้าทายครับ แต่ที่ท้าทายกว่าคือการสร้างแนวทางแห่งพรแสวงให้กับตัวเด็ก แต่ต้องถูกทางที่เหมาะสม (เข้ากับดวงชะตา เข้ากับสภาพการณ์ในปัจจุบันด้วยนะครับ)

ด้วยความเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ หาความรู้เป็นประจำ โดยเฉพาะการโฟกัสไปที่ “แนวทางการประสบความสำเร็จ” เพราะแม้ว่าจะศึกษาด้านโหราศาสตร์จีนมา เป็นที่ปรึกษาจัดฮวงจุ้ยบ้าน ปรึกษาหาฤกษ์คลอดบุตร แต่ตัวผมเองเชื่อมั่นเสมอว่าความสำเร็จของทุกคนอยู่ในมือของแต่ละคนเองเป็นหลัก ปัจจัยของคน การกระทำของแต่ละคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เช่นกันกับความสำเร็จของเด็กสักคนหนึ่งนอกเหนือจากปัจจัยฟ้า การกำเนิดมาในวันเวลาที่ดีเหมาะสมอาจทำให้มีข้อได้เปรียบบ้าง แต่แนวทางการเลี้ยงดูการสนับสนุนของคุณพ่อคุณแม่ต่างหากที่จะมีอิทธิพลต่อความสำเร็จของเด็กๆครับ

ผมมั่นใจว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกหลานของตนเองมีพรสวรรค์ติดตัวกัน เพราะจะได้การันตีว่าในอนาคตลูกหลานของเราจะได้มีโอกาสดีๆ มีความสำเร็จรออยู่ มีงานทำที่แน่นอน และไม่ต้องลำบาก ฉะนั้นจุดแรกที่ต้องตระหนักคือ เราต้องค้นหาพรสวรรค์แท้ๆ ที่ลูกมี ค้นให้เจอในสิ่งที่ลูกอยากเป็น ไม่ใช่สั่งการให้ลูกมีพรวรรค์ในแบบที่เราต้องการอยากให้ลูกเป็น ซึ่งมีพ่อแม่จำนวนไม่น้อย ที่ชอบยัดเยียดความฝันในวัยเด็กของตนเองให้ลูก

เช่นเมื่อก่อนคุณพ่ออยากเป็นหมอ แต่พอเป็นไม่ได้ก็เลยอยากให้ลูกชายเป็นหมอแทน หรือแม่บางคนอยากเป็นนางงามแต่ไม่มีโอกาส เลยพยายามผลักดันลูกเข้างานประกวดตลอดเวลา จริงๆแล้วหากลูกสนใจในทิศทางเดียวกับพ่อแม่ก็ไม่มีปัญหาครับ แต่หากเขาอยากเป็นอย่างหนึ่ง แต่เราดันไปบังคับให้เขาเป็นอีกอย่างหนึ่ง นั่นอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี เช่น ลูกจะต่อต้าน เรียนหรือทำกิจกรรมที่พ่อแม่ต้องการอย่างปราศจากความสุข หรือไม่ก็แกล้งเรียนให้ล้มเหลว เพื่อจะได้ไม่ต้องทนเรียนในสายวิชานั้นต่อไป

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีครับ ท่องไว้เลยว่าอย่าบังคับลูก หากลูกอยากเรียนอะไร ชอบอะไร จงส่งเสริม เพราะแม้ลูกจะชอบในสายวิชาที่อาจจะดูไส้แห้งหรือไม่มั่นคงในสายตาของคุณ เช่นนักเขียน นักวาดภาพ นักดนตรี แต่หากลูกคุณเก่งจริง และคุณช่วยส่งเสริมอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้เพชรน้ำงามในตัวลูกเปล่งประกายออกมา รับรวองครับว่าเขาไม่มีทางไส้แห้งอย่างแน่นอน เพราะทุกสาขาอาชีพมีผู้ประสบความสำเร็จ เพียงแต่บางทีคุณหรือผมก็อาจไม่ได้รู้จักเขาเหล่านั้นครับ

หากรักลูกและเป็นห่วงลูกจริง ขอให้เลือกวิธี ส่งเสริม แทนที่จะไป เปลี่ยนสิ่งที่ลูกอยากทำ เราควรช่วยเขาวางแผน ช่วยหาแนวทางที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในแนวทางที่เขาต้องการ การวิเคราะห์ศักยภาพจากวันเวลาที่เกิดอาจพอเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ได้ แต่อย่าลืมว่าบุคลิกหรือพลังงานต่างๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ การเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างดวงแบบหนึ่ง ไปมีบุคลิกของคนอีกโครงสร้างหนึ่ง ตรงนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตุครับ ต่างจากแนวทางการดูดวงที่มักฟันธงไปในทางใดทางหนึ่ง

ไม่ว่าเราจะชอบพรสวรรค์ที่ลูกมีหรือไม่ ขอเพียงเราส่งเสริม ช่วยเติมพลังแห่งพรสวรรค์ให้มากขึ้น อัพเกรดความสามารถของลูกให้โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ หากเขาเก่งจริงย่อมต้องพบทางที่ใช่สำหรับตัวเองแน่นอนครับ การได้ทำงานที่ใช่และชอบ มันเป็นกำไรชีวิตเลยทีเดียว เพราะเขาจะมีความสุขมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า เหมือนที่บอกว่าคนที่นอนหลับสนิท หลับง่ายหลับสบาย มีความสุขแปดชั่วโมง ถ้าแถมด้วยทำงานที่ชอบมีความสุขกับการทำงานอีกวันละแปดชั่วโมงย่อมดีกว่าแน่นอนครับ

ถ้าเอาจริงแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ยังมีแนวทางที่อยากให้เขาเก่ง อยากให้มีพรสวรรค์ด้านใดด้านหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่คิดว่าดีและเหมาะสม ลองเปลี่ยนจากการบังคับ เป็นการนำเสนอ เป็นการปลูกฝังแบบค่อยเป็นค่อยไปดูครับ อยากให้เขาเก่งเรื่องไหนให้เขาไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นบ่อยๆ สรรหากิจกรรมที่น่าสนุกและสามารถต่อยอดในแนวทางที่ต้องการได้ ค่อยๆนำเสนอให้เขา จัดสร้างสิ่งแวดล้อมให้รายล้อมไปด้วยสิ่งที่เราอยากให้ลูกเชี่ยวชาญหรือชอบ เช่นจัดวางหนังสือไว้เต็มบ้าน อ่านหนังสือให้ลูกดู ให้ลูกเห็น ความจริงข้อหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนมองข้ามคือ คิดว่าพรวรรค์มักจะเกิดขึ้นเองและแสดงออกมาเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่เปลี่ยนแปลงลูกไม่บังคับลูกนั้นเป็นสิ่งดีครับ แต่บางคนก็ปล่อยวางเกินไป ไม่สังเกตุ ไม่สนใจดูว่าเขาชอบหรือเก่งด้านไหน

เด็กๆเกิดมาไม่มีสิ่งที่ชอบหรือสนใจติดตัวมานะครับ ทุกอย่างอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่จะจัดสรรสิ่งแวดล้อม จะปลูกฝังสิ่งใดลงในความคิดและทัศนคติของเขา จุดนี้เองที่ทำให้ทุกคนทำในสิ่งที่ต้องการได้อย่างแท้จริงครับ นำเสนอแล้วปล่อยให้เขาหรือเธอเป็นผู้เลือก แล้วเราก็สนับสนุนให้เต็มที่ และอย่าลืมปลูกฝังนิสัยพรแสวงให้กับลูกด้วยครับ ยกตัวอย่างบุคคลที่เก่งหรือสำเร็จได้ด้วยพรแสวง เล่าให้เขาฟัง สอนให้เห็นว่าทุกคนสามารถเป็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ สอนให้รู้จักความว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ครับผม Nothing is Imsposible