โชคดี โชคร้าย กรรม คำเหล่านี้เป็นคำที่ถูกใช้เป็นข้ออ้างมากที่สุด หลายคนให้นิยามคำเหล่านี้ไว้แบบครอบคลุมทุกเรื่องราว แบบว่าอ้างได้ตลอด แท้จริงแล้วโชคหรือสิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน เราควบคุมได้หรือไม่ได้กันแน่ การอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ตัดสินใจได้ถูกต้อง ผลออกมาดีเราอาจเรียกว่านี่คือ โชคดี ในทางกลับกันการผิดที่ผิดเวลา ตัดสินใจพลาดผลออกมาแย่ จะเรียกว่า โชคร้าย
โชคคือส่วนผสมของ การเตรียมพร้อม และ โอกาส
สำหรับผมการที่โชคดีก็แค่เราทำอะไรได้ถูกต้องเท่านั้นเอง ที่น่าสนใจกว่าคือเราควบคุมการกระทำ การตัดสินใจของตัวเองให้ถูกตลอดได้ไหม แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่จะทำเช่นนั้นได้ เพราะคนเรากระทำกิจกรรมใดๆด้วยจิตใต้สำนึก ด้วยความเคยชิน มากกว่าที่จะมานั่งคิดวิเคราะห์ด้วยข้อมูลตลอดเวลา นั่นล่ะที่มาของความเชื่อว่าพลังงานรอบๆตัวเรานั้นมีอิทธิพลต่อความคิดของเรามากแค่ไหน
ในบทความนี้ผมจะแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับปัจจัยฟ้ากำหนด หรือที่หลายคนเรียกดวงชะตา ปัจจัยฟ้าน่าจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง วันเวลาเกิดของเรา พลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป ในแต่ละปี เดือน วัน ยาม ตามการโคจร เคลื่อนที่ของดวงดาว
ผมไม่ขอนับความบังเอิญ เรื่องไม่คาดคิด เรื่องมหัศจรรย์ต่างๆ สิ่งศักดิ์สิทธิมาเกี่ยวข้องนะครับ ตรงจุดนี้ขอให้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลละกัน สิทธิของแต่ละคนครับ กฏของการเปลี่ยนแปลง มีปรากฎอยู่ทุกที่ทั้งวิทยาศาสตร์ ศาสนา ซึ่งเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วแต่บางครั้งคนเราก็ทำใจรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเกินคาดคิดไม่ได้ การเคลื่อนที่ของโลก การเปลี่ยนแปลงสนามพลังงานแม่เหล็ก ล้วนมีผลต่อความคิดเรา ฤดูร้อน ฝน หนาว ความคิด อารมณ์ของเรา ล้วนมีการปรับเปลี่ยนเสมอ เราเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ จิตวิทยา ได้ในระดับหนึ่ง แต่ในระดับพลังงานที่ลึกซึ้งลงไป เรากลับไม่ได้ใส่ใจเรียนรู้มัน ทั้งที่มีการศึกษา ถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ผ่านการพิสูจน์จากการให้คำทำนาย การแนะนำปรับปรุงดวงชะตาที่ได้ผลจริง การปรับสมดุล การใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับจุดเด่น จุดด้อยของตัวแต่ละบุคคล (ไม่เกี่ยวกับการทำบุญ ตัดกรรม ปล่อยนก ปล่อยปลาแต่อย่างใด)
นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้คนนิยมที่จะ หาฤกษ์คลอด ที่ดีที่สุดในช่วงเวลา ให้กับลูกหลานของตนเอง อีกทั้งฤกษ์ยามในเรื่องต่างๆ ก็เช่นกัน
การวิเคราะห์ฤกษ์คลอด ของแต่ละคนจะทำให้ทราบว่ามีจุดเด่นจุดอ่อนตรงไหน ควรทำไม่ควรทำอะไร เป็นการปรับเพื่อความสมดุลอย่างแท้จริง ไม่ได้เกียวกับความมงคล ความเชื่อ การถือเคล็ด โชคลางแต่อย่างใด คำทำนายนั้นไม่มีประโยชน์มากไปกว่าเป็นการพิสูจน์ว่าหลักการนี้ใช้ได้จริง คำแนะนำที่ให้ปฏิบัติต่อต่างหากที่มีค่าที่สุด
จากที่เปรียบเทียบปัจจัยการกำหนดของพลังฟ้าไว้ว่าเปรียบเสมือนสนามแข่งรถนั้น การได้รู้ล่วงหน้าก่อนย่อมทำให้ผู้เข้าแข่งขันสามารถเตรียมพร้อมได้ดีกว่า ในชีวิตจริงไม่มีใครวิ่งแข่งอยู่บนทางตรงตลอดเวลา ต้องมีหลุม โค้ง อุปสรรคต่างๆบ้าง นอกจากหาวันเวลาเกิดให้มีศักยภาพมากพอแล้ว จะต้องมีวัยจรเวลาจรที่ค่อนข้างดี ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าย่อมส่งผลให้มีเส้นทางที่สะดวกกว่า นั่นคือเก่งและเฮง
บางคนอาจจะเก่งมากศักยภาพตามรูปดวงดีมาก แต่เมื่อดูวัยจรกลับไม่เอื้อให้เท่าที่ควร ก็จะปรากฏเป็นคนเก่งที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แบบที่คนอื่นก็ไม่สามารถเข้าใจได้ บางคนรูปดวงไม่ดีแต่วัยจรดีมาก กลายเป็นคนไม่เก่งนักแต่ประสบความสำเร็จได้ (ด้วยความช่วยเหลือในด้านต่างๆที่จะเข้ามาในช่วงวัยจร ปีจรที่ดีกับตัวเอง)
บางคนไม่ดีทั้งรูปดวง ทั้งวัยจร แต่ได้อยู่ในบ้านที่ส่งเสริมปรับสมดุลให้ตัวเองได้ หรือได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดีกับตัวเอง มีกัลยาณมิตรดีๆ ปัจจัยแวดล้อมเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุให้การวิเคราะห์ทำนายดวงมีความคลาดเคลื่อนได้ การได้รู้ว่าอนาคตมีสิ่งที่ดีรออยู่หรือมีอุปสรรครออยู่ ผู้มีความรู้ย่อมเตรียมตัวได้พอสมควร นั่นคือยังไงเสียความรู้ความสามารถก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่งั้นรู้ก็ไม่ต่างจากไม่รู้
ผลในปัจจุบัน มีเหตุมาจากอดีต
และจะส่งต่อไปอนาคตแน่นอน
เว้นแต่ว่าคุณเลือกจะเขียนอนาคตขึ้นใหม่
อ่านเพิ่มเติม